นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. ได้นำร่องเปิดให้บริการขนส่งสินค้าพัสดุรายย่อย ประเภทหีบห่อวัตถุไปกับขบวนรถสินค้า เส้นทางสายใต้ แบบราคาประหยัด ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.65 เป็นต้นไป เพื่อช่วยให้ประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงเอสเอ็มอี มีต้นทุนการขนส่งที่ถูกลงอย่างไรก็ตามสำหรับสินค้าที่จะใช้บริการขนส่งดังกล่าว จะต้องบรรจุในภาชนะที่ปิดมิดชิด แข็งแรง ขนาด (กว้าง X ยาวX สูง) ไม่เกิน 2.50×1.00×0.80 เมตร หรือมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า 2 ตารางเมตร และสูงไม่เกิน 1 เมตร มีน้ำหนักไม่เกิน 200 กิโลกรัม(กก.) ต่อชิ้น
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้องเป็นสินค้าที่ไม่เน่าเสียง่าย เช่น สิ่งของ อะไหล่ เสื้อผ้า อาหารแห้ง ส่วนอัตราค่าบริการ เริ่มต้นจากสถานีต้นทางถึงปลายทางที่ 50 บาท ต่อน้ำหนัก 20 กก. ไปจนถึงสูงสุด 470 บาท ต่อน้ำหนัก 200 กก. ซึ่งเมื่อเทียบกับค่าขนส่งทางถนน จะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า 50-70% ขณะเดียวกันยังได้รับประกันความเสียหายของสินค้าที่เกิดจากการขนส่งตามระเบียบของ รฟท. อีกด้วย ทั้งนี้ รฟท. พร้อมเปิดให้บริการรับส่งพัสดุเป็นประจำทุกวัน เริ่มจากย่านสถานีรับส่งสินค้าพหลโยธิน จนถึงสถานีหาดใหญ่ อีกทั้งยังเปิดรับส่งสินค้าระหว่างทางที่สถานีชุมพร สุราษฎร์ธานี ชุมทางทุ่งสง ชุมทางหาดใหญ่ โดยใช้เวลาขนส่งจากต้นทาง ถึงปลายทางภายใน 24 ชั่วโมง
นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า ผู้สนใจสามารถใช้บริการรับส่งสินค้าได้ที่ย่านสถานีรับส่งสินค้าพหลโยธิน (ใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ ด้านตรงข้ามตลาด อตก.) ตั้งแต่เวลา 08.00 – 21.00 น. หมายเลขโทรศัพท์ 084-2694161 และสถานีชุมพร สุราษฎร์ธานี ชุมทางทุ่งสง ชุมทางหาดใหญ่ ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามนอกจากการเปิดบริการขนส่งสินค้าแบบพัสดุรายย่อยเส้นทางสายใต้แล้ว รฟท. ยังเตรียมขยายการให้บริการขบวนรถพิเศษรับ-ส่งสินค้า ทั้งแบบเหมาขบวน และการพ่วงไปกับขบวนรถชนิดต่าง ๆ เพิ่มเติมอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางสายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงเดือน ส.ค.65 ด้วย เพื่อรองรับความต้องการการใช้บริการขนส่งทางรางที่เพิ่มขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จในการทดลองนำร่องเส้นทางสายใต้ ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก
นายนิรุฒ กล่าวด้วยว่า การขยายบริการรับส่งสินค้าและพัสดุทางรถไฟ นอกจากจะเป็นทางการเลือกในการช่วยลดค่าครองชีพในการขนส่งสินค้าแก่ประชาชน และผู้ประกอบการแล้ว ยังช่วยสนองตอบความต้องการของผู้ใช้บริการที่มีแนวโน้มหันมาขนส่งสินค้าทางรางเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ รฟท. ที่มุ่งส่งเสริมการปรับโหมดการขนส่งจากถนนสู่ระบบราง และเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าเข้ากับฐานการผลิตอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมของประเทศ เนื่องจากการขนส่งทางราง ถือเป็นระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ำ ประหยัดพลังงาน มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า รฟท. มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้า โดยได้มีการลงทุนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางรถไฟสายใหม่ รวมถึงจัดหาหัวรถจักรรุ่นใหม่เข้ามา เพื่อขยายเครือข่ายการขนส่งให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ และสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของอาเซียนในอนาคตอันใกล้.คำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อต